เส้นโค้งแห่งความสุข อีเมล์
เขียนโดย แม่จา   
เสาร์, 02 กุมภาพันธ์ 2008

Image

เส้นโค้งแห่งความสุข
ผู้แต่ง    พระไพศาล  วิสาโล
ผู้จัดพิมพ์  มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
จัดจำหน่าย บริษัท เคล็ดไทย  จำกัด  โทร. 0-2225-9536-9
ราคา  120  บาท

 การมีเงินทอง ได้ครอบครองทรัพย์สมบัติมากมาย  การได้บริโภคซื้อของตามใจปรารถนา จะทำให้เรามีความสุขจริงหรือ  พอได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วกลับมาอ่านชื่อหนังสือใหม่อีกครั้งทำให้รู้สึกว่าตั้งชื่อหนังสือเก่งจังทำให้เห็นภาพชัดเลย  (นึกถึงกราฟพาราโบล่าคว่ำที่เรียนวิชาเรขาคณิตตอนเด็กๆ กราฟที่โค้งขึ้นเมื่อถึงจุดสูงสุดแล้ววิถีโค้งก็ตกต่ำลง)  หนังสือเล่มนี้ปกอาจจะดูเชยแต่เนื้อหาอ่านง่ายได้ข้อคิด  เป็นการรวมเล่มจากวารสารฉลาดซื้อ  สื่อเพื่อผู้บริโภค  ที่พระไฟศาล เขียนประจำคอลัมภ์ ?อยู่ย้อนยุค? เป็นเวลา 8 ปี  ( เคยเอาหนังสือเล่มนี้ไปให้แม่เพื่อนลูกอ่าน  แม่จาบอกว่าเป็นหนังสือดีน่าอ่านมากค่ะ  คุณแม่ท่านนั้นพอหยิบดูหน้าปกแล้วบอกว่า หนังสือดีแต่หน้าปกไม่ชวนให้หยิบอ่านเลย  ก็จริงอย่างที่คุณแม่ท่านนั้นพูด  แต่ถ้าเรามองข้ามเรื่องหน้าปกไปถึงเนื้อหาเชื่อว่าผู้อ่านจะได้อะไรดีๆเป็นข้อคิด)

ขออนุญาตคัดลอกบทคำปรารภจากพระวิศาลมาให้อ่านกัน

 หากวัตถุเงินทองเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขอย่างแท้จริง  ผู้คนทุกวันนี้ก็น่าจะมีความสุขมากขึ้นกว่าแต่ก่อน  ไม่ต้องเปรียบเทียบไกลไปถึงคนสมัยก่อนดอก  แค่เปรียบกับตนเองเมื่อก่อนก็ได้  เห็นๆอยู่ว่า ทั้งๆที่มีเงินทองมากขึ้น  สิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าเดิม  แต่ผู้คนทุกวันนี้ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่าตนมีความสุขเพิ่มขึ้นการดิ้นรนไขว่คว้าหาทรัพย์สินไม่หยุดหย่อนเป็นสิ่งบ่งบอกว่าผู้คนกำลังถูกความทุกข์ผลักไสหรือเผาลน  หาใช่อาการของคนที่มีความสุขไม่

 แม้ว่าการดิ้นไขว่คว้าหาทรัพย์สมบัติจะนำความทุกข์มาให้  และเมื่อได้แล้วก็ใช่ว่าความทุกข์จะหมดไป  แต่การหยุดไล่ล่าหาทรัพย์สมบัติ ใช่ว่าจะทำได้ง่ายเนื่องจากความทุกข์อันได้แก่ความกระหายอยากนั้นคอยผลักไสเผาลนอยู่ตลอดเวลา  ทำให้ต้องวิ่งหาทรัพย์สมบัติมาดับความกระหาย  ซึ่งก็ระงับชั่วคราวเท่านั้น  จากนั้นก็ต้องไล่ล่าต่อไป  อาการเช่นนี้ไม่ต่างจากคนติดยาที่หายอยากต่อเมื่อได้เสพ  แต่หลังจากเสพไปได้ไม่นานก็เกิดอยากขึ้นอีก  แล้วก็ต้องเริ่มหายามาเสพใหม่ เป็นเช่นนี้เรื่อยไป แม้อยากถอนตัวออกจากวัฏจักรอันชั่วร้ายดังกล่าว  ก็ทำได้ยากอย่างยิ่งอาการเช่นนี้เห็นได้ชัดอย่างยิ่งในยุคบริโภค

 ปฏิเสธไม่ได้ว่าอิทธิพลของนักบริโภคนิยมทำให้ผู้คนถลำติดอยู่ในวัฏจักรดังกล่าวมากขึ้นทุกที  มันไม่เพียงให้สัญญาแก่เราว่าความสุขเกิดขึ้นได้ไม่ยากหากซื้อสิ่งเสพมาปรนเปรอเท่านั้น  หากมันยังมีเสน่ห์ตรงที่หยิบยื่นความหลากหลายและสะดวกสบายให้จนผู้คนเข้าใจว่านั่นคือเสรีภาพที่ชีวิตร้องการ ลึกลงไปกว่านั้น  มันยังตอบสนองจิตส่วนลึกที่ต้องการความมั่นคง  ปรารถนาที่พึ่งและสิ่งยึดเหนี่ยวท่ามกลางความไม่แน่นนอนของชีวิตและความไม่ยั่งยืนของตัวตน  การเอาตัวตนไปผูกติดกับวัตถุซึ่งดูเหมือนยั่งยืนของตัวตน  การเอาตัวตนไปผูกติดกับวัตถุซึ่งดูเหมือนยั่งยืนถาวรนั้นชวนให้สำคัญผิดไปว่าตัวตนของเราจะอยู่ยั่งยืนถาวรตามไปด้วย  แม้นั่นจะเป็นมายาภาพ  แต่ก็สามารถดึงดูดให้ผู้คนเข้าหาบริโภคนิยม  และทุ่มเทให้กับมันไม่ต่างจากศาสนิกผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา

 ลัทธิบริโภคนิยมได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตและโลกรอบตัวเราไปแล้ว  จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องรู้จักและเท่าทันบริโภคนิยม  อย่างน้อยก็เพื่อจะอยู่ได้ในโลกแห่งบริโภคนิยมได้อย่างมีความสุข  และหากเป็นไปได้ก็ควรช่วยกันปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สังคมของเราเป็นอิสระจากบริโภคนิยมมากขึ้น  ตลอดจนช่วยกันควบคุมกำกับบริโภคนิยมเพื่อให้เป็นโทษต่อชีวิตสังคมและธรรมชาติน้อยลง


Add as favourites (584) | Quote this article on your site

เขียน comment แรกของบทความนี้

เขียน Comment
ชื่อ:
E-mail
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
Comment:



Code:* Code