นู๋แป้งชวนเที่ยว ประเทศ อิตาลี อีเมล์
เสาร์, 08 กันยายน 2007

 สวัสดีทุกคนอีกครั้ง เบื่อหน้ากันหรือยัง วันนี้ข้าพเจ้าจะมาชวนเที่ยวไปนะ ประเทศ อิตาลี นั่นเอง ถูกต้องนะคร้าบบบบบ.... ( ? )
 
 ?เฮ้ แป้ง มองลงไปดิ เห็นประเทศอิตาลีแล้ว รูปร่างเหมือนรองเท้าบู๊ตจริงๆด้วย อ้าวเป็นไรอ่ะ?
 ใครสักคนนี่แหละ  ก็คงจะเป็นพี่สาวแสนแสบของข้าพเจ้านะสิ  พี่ปุยฝ้ายชี้ลงไปตรงหน้าต่างเครื่องบิน ตอนนั้นข้าพเจ้ายังเด็กอยู่เลย แล้วก็มึนด้วย โธ่ ก็เครื่องบินมันทำให้เราหูอื้อนี่นา จากนั้นเราก็เดินทางออกจากสนามบินที่แน่นไปด้วยคนมากมาย (จริงๆนะ) ทริปนี้เราย่ำทั่วอิตาลีเลย ได้มีโอกาสไปเหยียบย่ำจับต้อง  2 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้วยน้า...ไม่ได้โม้.... ทั้งหอเอนปีศาจ (อุ้ยขอโทษอ่ะ )  หอเอนปิซา  และโคลอสเซี่ยม   นอกจากนี้ก็ยังได้ไปนมัสการพระคริสต์ในกรุงวาติกัน ไปกรุงโรม  ดูน้ำพุเทรวี่ (ที่หนังสุดโปรดเล่นโดยฮิลารี ดัฟฟ์ ก็ไปถ่ายมา ได้ไปกินไอติมร้านเดียวกับฮิลารี ด้วย ปลื้มซะไม่มีน่ะ นู๋แป้ง) เอาเป็นว่า ข้าพเจ้าจะสาธยายเป็นที่ที่ไปแล้วกันนะ..... ^0^
 ที่แรกที่นู๋แป้งอยากโชว์ ก็คือ  หอเอนปิซา เป็นหอคอยหินอ่อนสูง 54 เมตร มี 8 ชั้น สร้างเสร็จในปี พ.ศ.1893 ใช้เวลาสร้างตั้ง 176 ปีแน่ะ   หอนี้เริ่มเอียงขณะสร้างไปได้แค่ 4-5 ชั้น (ใครนะเป็นคนออกแบบฟะ)
นักวิทยาศาสตร์นามกระเดื่อง  กาลิเลโอ กาลิเลอิ ก็เคยมาทดลองเรื่องแรงโน้มถ่วงที่นี่ด้วย (ทุกคนน่าจะเคยเรียนแล้วนะ หรือว่าลืมแล้ว!!) 

Image
หอเอนปิซาก็เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณง่ะ

 ต่อมา (ว้าก หนีเรวววว ไม่งั้นเดี๋ยวต่อต่อยไง ฮิฮิฮิ) เราก็ไปเมืองปอมเปอี เมืองโบราณสมัย 2000 ปีซึ่งถูกลาวาจากภูเขาไฟวิสุเวียสที่ระเบิดเมื่อปี พ.ศ.662 ไหลทับคนและสิ่งก่อสร้างจมหายไปถึง 25 ฟุต มีหนังสือหลายเล่มที่เขียนเกี่ยวกับเมืองปอมเปอี บางคนน่าจะเคยอ่านมาบ้างแล้วหล่ะ น่ากลัวม้ากมีคนเป็นๆที่โดนลาวาไหลมาทับแบบไม่รู้ตัว จนตายในสภาพที่ยังนอนหลับอยู่ บรืออออออ
    

ImageImage

 โคลอสเซี่ยม ที่ข้าพเจ้าจะพูดถึงต่อไปก็คือสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่ถูกบันทึกไว้เป็นเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแล้ว ที่นั่นสมัยก่อน เค้าใช้ทำการต่อสู้ระหว่างนักโทษประหารกับสิงโต หากใครล้มสิงโตได้ด้วยมือเปล่า พวกนั้นก็จะรอดชีวิตไป โคลอสเซี่ยมสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.615-623  ดีใจจังไม่ได้เกิดเป็นคนในสมัยนู้นนนน

Image อีกหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกง่ะ

 ต่อไป (เฮ้อ ค่อยยังชั่ว ไม่ต้องคอยวิ่งหนีตัวต่ออีกแย้ววว) ก็คือเกาะคาปรี ซึ่งมีถ้ำบลูคอตโต้เอาไว้เชยชมโทษทีไม่มีรูปถ้ำน่ะ เพราะตอนไปถึงน้ำทะเลขึ้นก็เลยอดเข้าถ้ำ ขืนเข้าป่านนี้คงไม่มีนู๋แป้งมาเขียนเล่าเรื่องให้ฟังซะแล้ว 

ImageImage
  
เส้นทางวกวนจากบนเกาะคาปรี ลงสู่ทะเลเบื้องล่างไปดูบลูคอตโต้ ข้าพเจ้าเกือบอ้อกซะแย้ว

 เอาเป็นว่าเราต่อไปที่ นครวาติกัน เราได้ไปดูประติมากรรมหินอ่อนระดับโลกที่เรียกว่าเปียต้า ซึ่งเป็นรูปปั้นพระแม่มารีและพระเยซู ในโบสถ์สวยๆด้วย
Image  นครวาติกันยามเช้าตรู่ไร้ผู้คน เหมือนนู๋แป้งเป็นเจ้าของที่นี้เลย มีความสุขจริงๆ
Image  รูปปั้นเปียต้าที่ขึ้นชื่อ แกะสลักจากหินอ่อน อ่อนช้อยงดงามมากเลยค่ะ
 สุดท้ายก็คือเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งมีรูปปั้นเดวิดแบบจำลองอยู่ เดวิดเป็นผู้ชายที่รูปร่างงามที่สุดในโลกดังนั้นเค้าจึงต้องยืนแบบไม่มีเสื้อผ้าท้าลมท้าฝนตลอดเวลา (ว้าย ไม่มีเสื้อ ผะ ผ้า น่ะหรือ) ไปเที่ยวครั้งนั้นสนุกมากเลยจะบอกให้
Image ส่วนใหญ่เราจะเห็นแต่ด้านหน้าของคุณเดวิด แต่ข้าพเจ้าว่ามันน่าเกลียด ดูด้านหลังก็พอน่ะ

 จบแล้วจ้าสำหรับประสบการณ์ของข้าพเจ้า บางคนถามว่าข้าพเจ้าเอามาเล่าทำไมตั้งหลายเรื่อง ให้อิจฉากันเล่นรึไง เปล่าเลย ข้าพเจ้ามาเล่าเพราะอยากให้ทุกคนรู้เอาไว้ เผื่อใครได้ไปจะได้รู้ว่าคืออะไรแล้วก็อวดความรู้ไง หวังดีนะเนี่ย (...)

จบแล้ว จาก แป้งเปียก  คือว่า นู๋แป้งมีชื่อเล่นอื่นๆ อีกกระบุงโกย ก็เพราะคุณเพื่อนสุดเลิฟตั้งให้นะสิ ทั้ง
แป้งจี่ แป้งทอด แป้งโกกิ แป้งเปียก แป้งทาตัว และแป้งอื่นๆ อีกมากมาย
ภาพแถมอีกนิดสสสสสส
Image  ทหารสวิสที่ยืนเฝ้านครวาติกัน หล่อสุดๆ
Image  น้ำตกเทรวี่ ที่ขึ้นชื่อว่าใครโยนเหรียญแล้ว จะได้กลับไปอีก นู๋แป้งกับพี่ฝ้ายโยนหลายเหรียญเลย จะได้กลับไปอีกหลายๆ รอบไงอ่ะ
Image  เลมอนทรี ที่หน้าร้านอาหาร สปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอก อร่อยสุดสุด


Add as favourites (381) | Quote this article on your site

Comments (1)
20-09-2008 04:23
 
ฉันกำลังจะไปอินตาลีค ่ะ
ผู้เยี่ยมชม
 

เขียน Comment
ชื่อ:
E-mail
BBCode:Web AddressEmail AddressBold TextItalic TextUnderlined TextQuoteCodeOpen ListList ItemClose List
Comment:



Code:* Code